หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระวัฒนา ญาณวโร (ดาทอง)
 
เข้าชม : ๑๖๗๖๑ ครั้ง
การศึกษาวิเคราะห์ปฏิจจสมุปบาทเพื่อการตอบปัญหาความจริงของโลกและจักรวาลในอภิปรัชญาตะวันตก
ชื่อผู้วิจัย : พระวัฒนา ญาณวโร (ดาทอง) ข้อมูลวันที่ : ๐๙/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(ปรัชญา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูภาวนาโพธิคุณ, ดร. พธบ. (ศาสนา), M.A. (Phil.), M.Phil, Ph.D. (Phil.).
  รศ. อุดม บัวศรี ป.ธ.๗, พ.ม., พธ.บ., M.A., (Phil.).
  ผศ.ดร. โสวิทย์ บำรุงภักดิ์ ป.ธ.๗, พธ.บ. (ปรัชญา), M.A. (Bud.), พธ.ด. (พระพุทธศาสนา)
วันสำเร็จการศึกษา :
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

                    งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปัญหาความจริงของโลกและจักรวาลในอภิปรัชญาตะวันตก ศึกษาปัญหาความจริงของโลกและจักรวาลตามหลักปฏิจจสมุปบาทนพุทธปรัชญาเถรวาท  ศึกษาวิเคราะห์ปัญหาความจริงของโลกและจักรวาลในอภิปรัชญาตะวันตกด้วยหลักปฏิจจสมุปบาทในพุทธปรัชญาเถรวาท เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยการศึกษาจากพระไตรปิฎก คัมภีร์ทาง พระพุทธศาสนา เอกสารวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยใช้วิธีการอธิบายเชิงพรรณา

                   ผลการวิจัยพบว่า ปัญหาความจริงของโลกและจักรวาลในอภิปรัชญาตะวันตก นักปรัชญาตะวันตกแสดงทัศนะเกี่ยวกับความจริงของโลกและจักรวาลแตกต่างกัน ตามทัศนะที่ตนเองมีความเข้าใจ จนเกิดเป็นปัญหาที่หาข้อสรุปที่แน่นอนแตกต่างกัน นักปรัชญาตะวันตกได้จัดกลุ่มปรัชญาที่แสดงทัศนะเกี่ยวกับความจริงของโลกและจักรวาล ออกเป็น ๓ กลุ่ม ๑) กลุ่มสสารนิยม มีทัศนะว่าสรรพสิ่งในโลกและจักรวาลกำลังจะเปลี่ยนแปลง แต่ว่าปฐมธาตุส่วนประกอบดั้งเดิมของโลกและจักรวาล ไม่เคยเปลี่ยนแปลงและจะไม่เปลี่ยนแปลง ปฐมธาตุไม่ใช่ดิน น้ำ ลม ไฟ ปฐมธาตุคือ ปรมาณูหรืออะตอม เป็นตัวการทำให้เกิดโลกและจักรวาลขึ้นมา ๒) กลุ่มจิตนิยม มีทัศนะว่าปฐมธาตุของโลกและจักรวาลมิใช่มีเพียงสสารหรือวัตถุ แต่ยังประกอบไปด้วยอสสารซึ่งจับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นด้วยตา เช่น แบบ ตามทัศนะของพลาโต้ ๓) กลุ่มธรรมชาตินิยม มีทัศนะว่าโลกและจักรวาลประกอบไปด้วยสิ่งธรรมชาติเท่านั้นที่เป็นจริง สิ่งอื่นใดที่มิใช่สิ่งธรรมชาติไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง สิ่งธรรมชาติคือสิ่งที่มีขึ้นและดับลงตามปฏิบัติการของสาเหตุธรรมชาติ

                   ความจริงของโลกและจักรวาลในพุทธปรัชญาเถรวาท มีทั้งลักษณะเป็นรูปธรรมที่มอง เห็นได้สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสปกติของมนุษย์ และนามธรรมที่สัมผัสได้ด้วยประสาทสัมผัสพิเศษของมนุษย์ พุทธปรัชญาเถรวาทจึงจำแนกโลกออกเป็น ๓ คือ สังขารโลก สัตว์โลก และโอกาสโลก ไม่ว่าความจริงของโลกและจักรวาลจะเป็นอย่างไร ล้วนแล้วแต่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุและปัจจัย ซึ่งเป็นตามธรรมดาของกฎธรรมชาติ ที่พุทธปรัชญาเถรวาทเรียกว่าหลักปฏิจจสมุปบาท หลักปฏิจจสมุปบาทจึงเป็นที่รองรับความเป็นจริงในพุทธปรัชญาเถรวาท  ฉะนั้นหากพิจารณาถึงความเป็นจริงของสิ่งทั้งหลายในโลกและจักรวาล ไม่มีสิ่งใดที่ไม่อิงอาศัยซึ่งกันและกัน ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมอิงอาศัยซึ่งกันและกันเป็นไปตามสภาพของตน ผู้รู้เข้าใจหลักปฏิจจสมุปบาท ย่อมรู้และเข้าใจความเป็นจริงของโลกและจักรวาลตลอดถึงความจริงทุกสิ่งทุกอย่างทั้งมวล

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕