เข้าชม : ๒๐๐๑๘ ครั้ง |
การมีส่วนร่วมของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุร |
|
ชื่อผู้วิจัย : |
พระอนุศาสตร์ อาภากโร (สิทธิสกุลชัย) |
ข้อมูลวันที่ : ๑๗/๐๙/๒๐๑๓ |
ปริญญา : |
พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์) |
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ : |
|
ผศ.ดร.สุรพล สุยะพรหม, พธ.บ, M.A., Ph.D. (Pol. Sc.) |
|
พระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ พธ.บ ป.ขส.ศศ.ม รป.ม(การจัดการ) |
|
ผศ.ดร.เติมศักดิ์ ทองอินทร์ ปก.ศ.สูง., พธ.บ., M.A., Ph.D.(Pol.Sc) |
วันสำเร็จการศึกษา : |
๒๕๕๕ |
|
บทคัดย่อ |
บทคัดย่อ
งานวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของพระสอนศีลธรรมใน
การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ๒) เพื่ อ
เปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา
ในอ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ๓) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อการมีส่วนร่วม
ของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัด
สระบุรี กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ครูและนักเรียน ในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอ
หนองแค จังหวัดสระบุรี จ านวน ๒๙๗ คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ ใช้ในการเก็บรวบรวม
ข้องมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง โดยมีค่าความเชื่อมั่ นทั้งฉบับ เท่ากับ . ๙๕๐ วิเคราะห์
ผลการวิจัย โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์สถิติส าเร็จรูป เพื่อการวิจัยทางสั งคมศาสตร์ สถิติที่
ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่และค่าร้อยละ ( Percentage) ค่าเฉลี่ย
(Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติเชิงอนุมาน คือ สถิติทอดสอบค่า
ที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ( One-Way Analysis of Variance) และท าการ
ทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีการผลต่างนัยส าคัญน้อยที่ สุด ( Least Significant Difference :
LSD)
(ข)
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ผู้ตอบแบบสอบกลุ่มครู พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ ๗๖ มีอายุ
ระหว่าง ๕๑ – ๖๐ ปี คิดเป็นร้อยละ ๓๒ ในส่วนสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่
เป็นครู / อาจารย์ คิดเป็นร้อยละ ๙๖ การศึกษาส่วนใหญ่มีการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป คิดเป็น
ร้อยละ ๙๒ ในส่วนประสบการณ์การสอนของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่มีประสบการณ์ ต่ า
กว่า ๕ ปี คิดเป็นร้อยละ ๓๖ ส่วนรายได้ต่อเดือนของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่มีรายได้
ตั้งแต่ ๑๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ ๘๐
กลุ่มนักเรียน สรุปผลได้ว่า เพศของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง
คิดเป็นร้อยละ ๕๓.๘ มีอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วนใหญ่มีอายุ ๑๓ ปี คิดเป็ นร้อยละ
๕๘ . ๓ ในส่ วนก าลังศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่ า ส่ วนใหญ่ ก าลังศึกษาในระดับ ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ คิดเป็นร้อยละ ๕๔. ๓ ในส่วนผลการเรียนของผู้ตอบแบบสอบถาม พบว่า ส่วน
ใหญ่มีผลการเรียน เกรดเฉลี่ย ๓.๕๑ – ๔.๐๐ คิดเป็นร้อยละ ๓๓.๒
๒. ความคิดเห็นของครูและนั กเรียนที่ มีต่อการมีส่วนร่วม ของพระสอนศีลธรรมในการ
จัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี โดยภาพรวมอยู่ใน
ระดับมาก มีค่าเฉลี่ย ๓.๘๙ เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า การมีส่วนร่วมของพระสอนศีลธรรมใน
การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึ กษาอยู่ในระดับมากทุกด้านตามล าดับคือ ด้านการ
เตรียมการสอน ด้านการด าเนินการสอน ด้านการใช้สื่ อ/อุปกรณ์ในการสอน ด้านการวัดผลและ
ประเมินผล และด้านการสร้างบรรยากาศในห้องเรียน
๓. การเปรียบเทียบคุณภาพความคิดเห็นของครูและนักเรียนที่ มีต่อการมีส่วนร่วม ของ
พระสอนศีลธรร มในการจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัด
สระบุรี ส าหรับครู จ าแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา ประสบการณ์การท างาน และรายได้ต่อ
เดือนแตกต่างกัน ส าหรับนักเรียน จ าแนกตาม เพศ ระดับการศึกษา และผลการเรียนแตกต่างกัน
๔. ปัญหา อุปสรรคเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของพระสอนศีลธรรมในการจัดการเรียนการ
สอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา ในอ าเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี มีอยู่ ๕ ด้าน คือ ๑) ด้านการ
เตรียมการสอน ๒) ด้านการด าเนินการสอน ๓) ด้านการใช้สื่อ/อุปกรณ์ในการสอน ๔) ด้านการ
สร้างบรรยากาศในห้องเรียน ๕) ด้านการวัดผลและประ เมินผล ดังนี้ ๑. พระสอนศีลธรรมเตรียม
เนื้อหาเข้าใจยาก ไม่สอดคล้องกับเนื้ อหาของรายวิชาที่ นักเรียนเรียน หรือไม่ตรงตามแนวการส อนที่
ทางโรงเรียนมอบให้ ๒. พระสอนศีลธรรมไม่มีระบบในการจัดเตรียมการสอน หรือไม่มีการเตรียมตัว
ในการสอนแต่ ละครั้ง ๓. เนื้อหาสาระรายวิชาพร ะพุทธศาสนานั้น เป็นเรื่องที่ มีความเข้าใจยา ก
ส าหรับนักเรียน ๔. พระสอนศีลธรรมติดภารกิจทางวัดไม่สามารถท าการสอนได้โดยตลอด ๕. พระ
สอนศีลธรรม มีเวลาน้อย มาสอนสัปดาห์ละครั้ง ๖. พระสอนศีลธรรมไม่มีสื่อการเรียนการสอนที่
ทันสมัยเพื่อสร้างความสนใจให้นักเรียน ๗. ทางโรงเรียนไม่มีห้องที่จะใช้สื่อ/อุปกรณ์ในการเรียนการ
สอนส าหรับพร้อมใช้งานได้ทุกครั้งที่ครูพระพร้อมจะใช้สื่อ/อุปกรณ์การเรียน ๘. สื่อ/อุปกรณ์ที่ พระ
สอนศีลธรรม จัดท าขึ้น นักเรียนไม่ มีส่ วนร่ วมในการจัดท า ท าให้นักเรียนไม่ มีความสนใจ ห รือ
(ค)
กระตือรือร้นที่ จะเรียน ๙. พระสอนศี ลธรรมไม่ค่อยเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น ไม่
ค่อยมีส่วนร่วมในเรื่องต่างๆ พระสอนศีลธรรมได้แต่บรรยาย จนหมดชั่วโมง ท าให้นักเรียนไม่มีความ
ตั้งใจเรียน เกิดอาการเบื่อ ๑๐ ในวิชาที่พระสอนศีลธรรมสอนกับการวัดผลและประเมินผลไม่ตรงกัน
จึงท าให้นักเรียนสอบไม่ได้ ๑๑. พระสอนศีลธรรมไม่แจ้งล่วงหน้าให้นักเรียนได้ทราบว่าจะมีการวั ดผล
และประเมินผล จึงทาให้นักเรียนสอบตกเป็นจ านวนมาก
ดาวน์โหลด |
|
|