หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » นางเบญจมาศ หนูมา
 
เข้าชม : ๑๖๗๕๖ ครั้ง
ศึกษาการประยุกต์หลักพุทธธรรม เพื่อใช้ในการบำบัดโรคของหมอนวดแผนไทย จังหวัดขอนแก่น
ชื่อผู้วิจัย : นางเบญจมาศ หนูมา ข้อมูลวันที่ : ๒๖/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูสุวิธานพัฒนบัณฑิต, ดร. พธ.บ.(ศาสนา), ศศ.ม. (ปรัชญา),Ph.D. (Soc.Sci.)
  ดร. ประยูร แสงใส ป.ธ.๔.,พ.ม., พธ.บ., M.A.,(Ed) P.G.DIP.In Journalism, Ph.D. (Education)
  ผศ.ดร.โสวิทย์ บำรุงภักดิ์, ป.ธ.๗., พธ.บ. (ปรัชญา)., M.A. (Bud).พธ.ด. (พระพุทธศาสนา)
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๖
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

                      วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากำเนิดพัฒนาการและความสำคัญของการนวดแผนไทย เพื่อศึกษาการนำหลักพุทธธรรมของหมอนวดไทยไปประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคด้วยวิธีการนวด และเพื่อศึกษาการประยุกต์หลักพระพุทธศาสนา แนวคิดด้านกระบวนการเสริมสร้างสุขภาพ เพื่อการบำบัดโรคด้วยวิธีการนวดแผนไทยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการศึกษาข้อมูลจากการสังเกต การสัมภาษณ์หมอนวดแผนไทย และคนไข้มานวดเพื่อรักษาอาการปวดเหนื่อย การเก็บ4ภาคสนามสมาคมแพทย์แผนไทย จังหวัดขอนแก่น และสาธารณสุข โรงพยาบาลเมืองพล อำเภอเมืองพล จังหวัดขอนแก่น

                      ผลการวิจัยพบว่า  วิธีการรักษาโรคโดยการนวดด้วยมือและใช้เท้าเหยียบลงบนร่างกายของผู้ป่วย ตรงจุดที่ต้องการรักษาบำบัดโรคชนิดนั้นๆ เช่น โรคปวดตามข้อ ปวดตามกระดูก โรคเอ็น โรคอัมพาต โรคอัมพฤกษ์ เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้ โรงพยาบาลต่างๆ ไม่สามารถที่จะบำบัดเยียวยาให้หายขาดได้ จึงเป็นที่มาว่า ผู้ป่วยที่แสวงหาโอกาสในการรักษาโรคได้เข้าไปรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณาแล้วจะเห็นว่า หมอนวดแผนไทย ก็คือ บุคคลที่เป็นแพทย์พื้นบ้านในบรรดาผู้รักษาบำบัดโรค การนวดเพื่อรักษาโรค ของไทยมี ๒แบบ คือ การนวดแบบราชสำนักและการนวดแบบเชลยศักดิ์ (แบบทั่วไป) ซึ่งเป็นการเรียนการสอน หรือถ่ายทอดสืบต่อกันมาทั้งในสถาบันการศึกษา และภายในครอบครัว สถานศึกษาการนวดแบบเดิม ของไทยแห่งแรก คือวัดพระเชตุพนฯ (วัดโพธิ์) ปัจจุบัน ได้เพิ่มขึ้นอีกหลายแห่ง เช่น วัดสามพระยา วัดปรินายก เป็นต้น

                      พรหมวิหาร ๔ เป็นหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อการพัฒนาจิตใจก่อให้เกิดมีจิตใจที่เยือกเย็นปราศจากทุกข์ร้อนสามารถเป็นที่พึ่งได้ของทั้งตนเองและผู้อื่นอีกทั้งยังสามารถต่อยอดพัฒนาสู่สุขภาพในมิติทางปัญญาที่จะสามารถเข้าใจในสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริงได้ เพราะฉะนั้น เมื่อบุคคลมีความเจ็บป่วยเกิดขึ้นจึงต้องแสวงหาวิธีการรักษาบำบัดตามกระบวนการบำบัดที่แตกต่างกันไป เช่นสมุนไพรบำบัดธรรมชาติบำบัดชีวจิตพลังจักรวาลสมาธิบำบัดการนวดแผนไทย ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เคยใช้ได้ผลดีในอดีตมาผสมผสานการดูแลสุขภาพตามแนวทางของแพทย์แผนปัจจุบันเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคด้วยวิธีการนวด และการนำเอาหลักพุทธธรรมมาประยุกต์เพื่อบำบัดรักษาโรคด้วยของหมอนวดแผนไทย จังหวัดขอนแก่น

                      ศีลคือ ข้อปฏิบัติตนขั้นพื้นฐานทางพระพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นหลักควบคุมความประพฤติทางกายและวาจาให้ตั้งมั่นอยู่ในความดีงามมีความปกติสุขไม่เบียดเบียนกันในสังคมโดยเฉพาะคนที่เป็นหมอนวดอาชีพจะต้องยึดศีลห้าเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้หมอนวดยังได้ให้ข้อมูลที่มีทัศนะต่อศีลว่าศีลมีความสำคัญในการดำเนินชีวิตเป็นธรรมพื้นฐานในการดำเนินชีวิตเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะต้องมีต้องรักษาไว้เพราะหลักของศีลธรรมเป็นเครื่องมือเป็นหลักในการพัฒนาตนสู่ความมีสุขภาพที่ดีศีลห้าในพระพุทธศาสนานี้เองเมื่อใครก็ตามยึดถือปฏิบัติแล้วย่อมนำตนเองครอบครัวและสังคมไปสู่ความมีสุขภาพที่ดีซึ่งในส่วนนี้ผู้ให้ข้อมูลได้แสดงทัศนะและอธิบายเพิ่มว่าศีลธรรมเป็นเครื่องมือเป็นหลักในการพัฒนาตนสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้นำความสุขที่ได้ปฏิบัติทางศีลห้าในพระพุทธศาสนา มาสู่สุขภาพที่ดีเช่นศีลห้านั้นประกอบไปด้วยห้ามไม่ให้เราดื่มสุราซึ่งจะส่งผลเสียต่อร่างกายต่างๆรวมไปถึงอุบัติเหตุต่างๆด้วย

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕