หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » วรภรณ์ เรืองศรี
 
เข้าชม : ๑๖๗๖๐ ครั้ง
การบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการ เรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ (การบริหารการศึกษา)
ชื่อผู้วิจัย : วรภรณ์ เรืองศรี ข้อมูลวันที่ : ๑๓/๑๒/๒๐๑๔
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ดร.อดิศัย กอวัฒนา
  ผศ.ดร.วรกฤต เถื่อนช้าง
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑ มีนาคม ๒๕๕๗
 
บทคัดย่อ

  การวิจัยฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขาของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์  ๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล  ๓) เพื่อศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้แนวคิดการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เป็นลูกจ้างประจำ ข้าราชการ และ คณะกรรมการบริหารสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน ๑๕๐ คน โดยใช้วิธีสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Radom Sampling) มีแบบสอบถามเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล  และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ได้แก่  ค่าความถี่  ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  การทดสอบค่าที (T-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่โดยมีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD) เครื่องมือที่ใช้ในการซึ่งมีลักษณะเป็นมาตราส่วนประเมินค่า ๕ ระดับและคำถามแบบปลายเปิด   ค่าความเชื่อมั่นแบบสอบถามที่ใช้ในการวิจัยเท่ากับ ๐.๖๕๔.

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า
  ความคิดเห็นบุคลากรมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา  ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์  โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x ̅ = ๓.๓๗)  เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน พบว่า การจัดการความรู้ด้านสมาธิอยู่ในระดับมาก (x ̅ = ๓.๕๔)  
การเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา  ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้  เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า บุคลากรที่มีเพศต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการความรู้โดยใช้หลักไตรสิกขาของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ในด้านปัญญาไม่แตกต่างกันที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .๐๕ จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้
  บุคลากรที่มีอายุต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๑ ซึ่งตรงตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
บุคลากรที่มีระดับการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา  ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกันที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
บุคลากรที่มีตำแหน่งต่างกันมีความคิดเห็นต่อการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา  ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ โดยภาพรวมไม่แตกต่างกันจึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย
  แนวทางการประยุกต์ใช้แนวคิดการบริหารจัดการองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ตามหลักไตรสิกขา  ของ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์ กระบวนการจัดการความรู้ที่ประกอบด้วยการบ่งชี้ความรู้  การสร้างและแสวงหาความรู้  การจัดความรู้ให้เป็นระบบ การประมวลและกลั่นกรองความรู้  การเข้าถึงความรู้ การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ และการเรียนรู้นั้นจะต้องนำหลักไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา เข้าไปแทรกอยู่ในกระบวนการจัดการความรู้ทุกขั้นตอน เพราะกระบวนการจัดการความรู้ตามกระบวนการของนักวิชาการนั้นเป็นกระบวนการที่สิ้นสุดที่การเรียน โดยเน้นแต่สิ่งที่เรียนรู้เท่านั้น บางครั้งอาจไม่ต่อเนื่อง แต่กระบวนการไตรสิกขานั้นไม่ได้หมายถึงการเรียนรู้เพียงอย่างเดียว  แต่เป็นการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ และจะนำไปสู่การจัดการความรู้โดยใช้หลักไตรสิกขาอย่างมั่นคงและยั่งยืน

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕