หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » มาลินี เกศธนากร
 
เข้าชม : ๒๐๐๑๓ ครั้ง
การบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ (การบริหารการศึกษา)
ชื่อผู้วิจัย : มาลินี เกศธนากร ข้อมูลวันที่ : ๑๓/๑๒/๒๐๑๔
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระราชวชิรเมธี, ดร.
  ผศ.อานนท์ เมธีวรฉัตร
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑ มีนาคม ๒๕๕๗
 
บทคัดย่อ

  การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๑) เพื่อศึกษาการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ (นครสวรรค์ - อุทัยธานี)๒) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ (นครสวรรค์ - อุทัยธานี) โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล๓) เพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธในการการบริหารงานกิจการนักเรียนของโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ (นครสวรรค์ - อุทัยธานี)

ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้กำหนดประชากรที่ใช้ในการศึกษาวิจัยในครั้งนี้  ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ( ผู้อำนวยการ หรือรองผู้อำนวยการ)  ครูหัวหน้างานกิจการนักเรียน  และ ครูที่ปรึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต ๔๒ รวมทั้งสิ้น  ๕๘ โรงเรียน ประกอบด้วยผู้บริหารสถานศึกษา ๓๓คน ครูหัวหน้างานกิจการนักเรียน ๓๓ คน การกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างครูที่ปรึกษาโดยการเปิดตารางขนาดกลุ่มตัวอย่างสำเร็จรูปของ Krejcie and Morgan ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๒๘๕ คน จากประชากรจำนวน  ๑,๐๕๓ รวมกลุ่มตัวอย่างที่ทำการศึกษา ๓๕๑ คน
ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire ) เพื่อใช้เก็บข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง  โดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive statistics)  
ผลการวิจัยพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน ๒๒๖ คน คิดเป็นร้อยละ ๖๔.๔ เพศชาย ๑๒๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๔.๖ 
ด้านประสบการณ์ทำงานพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีประสบการณ์ทำงานมากกว่า ๑๐ ปี มากที่สุด จำนวน ๑๘๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๒.๗ ลำดับรองลงมามีประสบการณ์ทำงานต่ำกว่า ๕ ปี จำนวน ๙๔ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๖.๘ ลำดับสุดท้ายมีประสบการณ์ทำงาน ๕-๑๐ ปี จำนวน ๗๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐.๕
ด้านสถานภาพ พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นครูที่ปรึกษา จำนวน ๒๘๕ คน คิดเป็นร้อยละ ๘๑.๒ ส่วนสถานภาพผู้บริหารและหัวหน้างานกิจการนักเรียน มีจำนวน ๓๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๙.๔
ผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษาพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเห็นต่อการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของโรงเรียนมัธยมศึกษาในภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ  ๔.๐๘สำหรับผลการพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าระดับความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามต่อการบริหารงานกิจการนักเรียนตามหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธของบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา อยู่ในระดับมากทุกข้อ 
อุปสรรคที่พบในการบริหารงานกิจการนักเรียนมาจากบุคลากรทางการศึกษาไม่สามารถนำกฎระเบียบมาใช้ได้อย่างเต็มที่ แนวทางการปฏิบัติตนของผู้ปฏิบัติงานฝ่ายต่างๆยังไม่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีความเหลื่อมล้ำในการทำงาน ทำให้ขาดการประสานงานและลดขั้นตอนในการดำเนินงานผู้ร่วมงานทั้งนี้ผู้ปฏิบัติงานมักไม่แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมและไม่ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานด้านต่างๆขาดการมีส่วนร่วมในการร่วมคิด ลงมือทำและตัดสินใจรวมไปถึงกันร่วมรับผิดชอบ ทำให้การดำเนินงานไม่ต่อเนื่อง  ไม่มีการประชุมวางแผนและปรึกษาหารือกัน และขาดจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรและขาดการวางแผนในการทำงาน ไม่คำนึงถึงผลที่ได้รับและความคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร
แนวทางการนำหลักธรรมาภิบาลเชิงพุทธไปประยุกต์ใช้ในสถานศึกษาด้านนิติธรรม : ศีลคือการใช้นโยบายของโรงเรียนเป็นมาตรฐาน โดยมีการลงมติเห็นชอบจากที่ประชุมโดยการบริหารจัดการ มีการใช้หลักสามัคคีธรรมในการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างมีส่วนร่วมและเป็นไปอย่างยุติธรรมมีการนำเสนอผลงานการจัดกิจกรรมหรืองานให้สาธารณะทราบอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจุบันโดยการจัดทำสารสนเทศเฉพาะด้านงานกิจการนักเรียนเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เที่ยงตรง เป็นปัจจุบัน และใช้หลักสุจริต ๓ เพื่อให้สามารถตรวจสอบกระบวนการทำงานได้อย่างโปร่งใสและสร้างองค์กรให้เป็นระบบโดยเน้นการมีส่วนร่วมจากชุมชน สร้างเครือข่ายผู้ปกครองเพื่อเข้ามาดูแลช่วยเหลือนักเรียน

ดาวน์โหลด

 
 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕