หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » กฤติกาวลัย หิรัญสิ
 
เข้าชม : ๑๖๗๖๒ ครั้ง
ความสัมพันธ์ในการพยากรณ์ชีวิตคนด้วยวิชาโหราศาสตร์ไทยกับกฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท
ชื่อผู้วิจัย : กฤติกาวลัย หิรัญสิ ข้อมูลวันที่ : ๐๖/๐๒/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระสุธีธรรมานุวัตร
  วุฒินันท์ กันทะเตียน
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์ฉบับนี้ ผู้ศึกษามีวัตถุประสงค์ ๑. เพื่อศึกษาการพยากรณ์ชีวิตคนตามหลักวิชาโหราศาสตร์ไทย ๒.เพื่อศึกษาหลักกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท ๓. เพื่อการนำเสนอถึงความสัมพันธ์ของการพยากรณ์ที่นำมาใช้ในการดำเนินชีวิต โดยมีความสอดคล้องกับกฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท  โดยออกแบบเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพใช้วิธีการศึกษาจากเอกสาร และการสัมภาษณ์ ผลการศึกษาพบว่า การพยากรณ์ชะตาชีวิตคนโดยหลักการของโหราศาสตร์  คือการคาดคะเนถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ กัน โดยอาศัยความรู้เกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของดวงดาวมาประกอบ  ส่วนหลักกรรมนั้น เป็นกฎที่แน่นอนมีเหตุ และผลปรากฏให้เห็นอยู่ในตัวอย่างพร้อมมูล ซึ่งจัดอยู่ในหลัก กรรมนิยาม อันหมายถึงกระบวนการแห่งเจตจำนงของการกระทำ  ในทางพระพุทธศาสนาการให้ผลของกรรม จะแบ่งตามหน้าที่ ตามเวลา และตามความแรงของกรรม

ความสอดคล้องที่มีความสัมพันธ์กันระหว่างการพยากรณ์ และกฎแห่งกรรม  คือเรื่องของเวลา (Timing) วิชาโหราศาสตร์จะบอกถึงช่วงเวลาที่ดี และไม่ดี เป็นการช่วยชี้แนวทางให้ทราบถึงระยะของเวลาที่บุคคลจะประสพกับโชคดี หรือเคราะห์กรรมอันเป็นผลมาจากการกระทำของตนเอง เพื่อที่จะได้มีสติในการแก้ไข หรือหลีกเลี่ยง กับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในชีวิต

โหราศาสตร์สามารถบอกรายละเอียดในแผนที่ดวงชะตาได้ในระดับหนึ่ง  นักโหราศาสตร์ที่ดี  สามารถแนะนำเจ้าของดวงชะตาให้รู้จักนำคำพยากรณ์นั้นมาประยุกต์ ปรับปรุงให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินชีวิตทั้งต่อตนเอง และผู้อื่น สามารถเข้าใจได้ดีถึงพื้นฐานดวงกำเนิด และกฎแห่งกรรม  ที่ไม่มีผู้ใดหลีกพ้น เหมือนกับดวงชะตากำเนิดที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕