หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » อติศักดิ์ จ้อยรักษา
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๘ ครั้ง
ประสิทธิภาพในการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาล ตำบลหนองหอยอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่(สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : อติศักดิ์ จ้อยรักษา ข้อมูลวันที่ : ๒๘/๐๘/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระครูภาวนาโสภิต
  นิกร ยาอินตา
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑. เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อประสิทธิภาพ       ในการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่           ๒. เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อประสิทธิภาพในการบริหารงานตามหลัก            สังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยการจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ๓. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ๔. เพื่อศึกษาแนวทางส่งเสริมประสิทธิภาพการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง               จังหวัดเชียงใหม่

การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสม โดยใช้การวิจัยเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงสำรวจและการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (In-deph Interview) และเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน ๓๘๐ คน โดยใช้สูตรการคำนวณของทาโร ยามาเน่ (Taro, Yamane)   จากการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่น          ของแบบสอบถามเท่ากับ .๕๕ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติสำหรับการวิจัย        ทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean)  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบสมมติฐานด้วยการทดสอบค่าที (t–test)           และการทดสอบค่าเอฟ (F–test) ด้วยวิธีการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA)           ในกรณีตัวแปรต้นตั้งแต่สามกลุ่มขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการ (L.S.D) โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕ และการสัมภาษณ์เชิงลึก       กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (In-depth Interview) โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

ผลการวิจัยพบว่า

๑. ความคิดเห็นของประชาชนต่อประสิทธิภาพในการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรม   ของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่  โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง             ( = ๓.๓๗) เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ด้านสมานัตตตา ( = ๓.๔๓) และด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด คือ ด้านอัตถจริยา ( = ๓.๓๓)

๒. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อประสิทธิภาพในการบริหารงาน                 ตามหลักสังคหวัตถุธรรม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ          และรายได้ พบว่า มีความคิดเห็น ไม่แตกต่างกันในทุกด้าน ปฏิเสธสมมุติฐานที่ตั้งไว้

๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการบริหารงาน                 ตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ที่จอดรถ         ไม่เพียงพอ ห้องน้ำไม่สะอาด การมีส่วนร่วมในการเข้าประชุมของประชาชนมีน้อย ขาดความกระตือรือร้นในการทำงานเท่าที่ควร และการจัดสรรงบประมาณไม่ทั่วถึง  

๔. แนวทางการส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารงานตามหลักสังคหวัตถุธรรมของเทศบาลตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผู้ให้ข้อมูลสำคัญส่วนใหญ่มุ่งเน้นในเรื่อง                  การปฏิบัติงานที่สอดคล้องกับหลักสังคหวัตถุธรรม โดยเฉพาะเรื่องของการช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่    การมีปิยวาจา การใส่ใจในการปฏิบัติงานและการให้ความเสมอภาค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผล         ต่อการบริหารงาน เพื่อสร้างความประทับใจแก่ประชาชนที่มาติดต่อราชการ

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕