หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระมหาธนกร กตปุญฺโญ (ดรกมลกานต์)
 
เข้าชม : ๒๐๐๐๖ ครั้ง
พุทธวิธีในการดำเนินการบำบัดผู้เสพยาเสพติด ของสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอก
ชื่อผู้วิจัย : พระมหาธนกร กตปุญฺโญ (ดรกมลกานต์) ข้อมูลวันที่ : ๓๐/๑๐/๒๐๑๙
ปริญญา : พุทธศาสตรดุษฎีบัญฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระโสภณพัฒนบัณฑิต
  พระมหามิตร ฐิตปญฺโญ
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๘ มีนาคม ๒๕๖๒
 
บทคัดย่อ

งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) ศึกษาสภาพปัญหาและการดำเนินการบำบัดผู้เสพยาเสพติดของสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอก ๒) ศึกษาพุทธวิธีในการบำบัดผู้เสพยาเสพติด ๓) วิเคราะห์การนำพุทธวิธีในการบำบัดผู้เสพยาเสพติดของสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอก การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร (Documentary Research) โดยการศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร ตำราวิชาการ หนังสือ งานวิทยานิพนธ์ งานวิจัยต่าง ๆ รวมทั้งทำการวิจัยภาคสนาม (Field Research) โดยการลงพื้นที่เก็บข้อมูลทั้งเป็นการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการพรรณนา (Descriptive research)

ผลการศึกษาวิจัยพบว่า สภาพปัญหาและการดำเนินการบำบัดผู้เสพยาเสพติดของสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอก คือ การดำเนินกิจกรรมใดๆที่อันจะป้องกัน และปลูกฝังค่านิยมเพื่อให้ผู้เสพยาเสพติดห่างไกลยาเสพติด โดยการสร้างองค์ความรู้ด้านยาเสพติด เพื่อให้ผู้เสพยาเสพติดห่างไกลยาเสพติด และไม่กลับไปเสพยาเสพติด โดยการลด ละ เลิกยาเสพติด โดยอาศัยการวิจัยทั้งหน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานภาคเอกชน

วัดถ้ำกระบอก มีชื่อเสียงทางด้านการบำบัดผู้เสพยาเสพติด โดยมีแผนกต่างๆเพื่อทำหน้าที่ในการบำบัด คือ แผนกทะเบียนเพื่อทำสถิติในการรักษาผู้ที่เข้าขอรับการบำบัด แผนกนำผู้บำบัดรับสัจจะ เพื่อที่จะให้ผู้ป่วยสร้างกรอบ และกำลังใจให้กับตนเอง แผนกบำบัดรักษา และดูแล เพื่อที่จะทำให้ผู้บำบัดเข้าสู่กระบวนการบำบัดของทางวัดถ้ำกระบอก โดยมีพระเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด ในการบำบัดตลอดระยะเวลา ๑๕ วัน แผนกฟื้นฟูจิตใจ และฝึกอาชีพเพื่อทำให้ผู้รับการบำบัดมีสภาพมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในการกลับเข้าสู่สังคมได้ และจะได้นำการฝึกอาชีพไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง นอกจากนั้นทางวัดถ้ำกระบอกนั้น ยังสนองงานในส่วนของภาครัฐ ในการอบรมความรู้เกี่ยวกับยาเสพติด แก่หน่วยงานที่ต้องการ และสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอกเป็นหน่วยงานเอกชนที่มีความโดดเด่นทางด้านการบำบัดผู้เสพยาเสพติดมีประวัติความเป็นมา หลักการและนโยบาย ขบวนการขั้นตอนการบำบัดยาเสพติด ตลอดจนแนวคิดเกี่ยวกับการละลายพฤติกรรมของผู้เสพยาเสพติดอย่างชัดเจน ตลอดจนฟื้นฟูจิตใจ และฝึกอาชีพเพื่อทำให้ผู้รับการบำบัดมีสภาพมีจิตใจที่เข้มแข็ง ในการกลับเข้าสู่สังคมได้ และจะได้นำการฝึกอาชีพไปใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง และมีขบวนการขั้นตอนในการบำบัดเป็นระบบโดยมีการปลูกฝังพฤติกรรมในหลายหลายกิจกรรมโดยแต่ละกิจกรรมนั้น มีหลักธรรมเข้าสอดแสรกในการบำบัดผู้เสพยาเสพติด

 

พุทธวิธีในการบำบัดผู้เสพยาเสพติด ซึ่งประกอบด้วยหลักธรรมต่างๆ คือ หลักอริยสัจ ๔  หลักสัมมัปปธาน ๔  หลักพรหมวิหารธรรม ๔ และหลักไตรสิกขา ๓ ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การนำหลักธรรมที่เกี่ยวข้องกับการบำบัดผู้เสพยาเสพติด ซึ่งในหลักธรรมนี้ ยกเอาสาระในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาแนวความคิดของ นักวิชาการในทางพระพุทธศาสนาเถรวาท โดยอิงอาศัยหลักธรรมที่มาโน้มน้าวจิตใจ และหลักธรรมในบำบัดจิตใจของผู้เสพยาเสพติดเป็นสำคัญ กล่าวคือ การนำหลักอริยสัจ ๔ มาใช้บำบัดผู้เสพยาเสพติดเพื่อ ให้รู้ และเข้าใจเรื่องของความ ทุกข์จากการเสพยาเสพติด ยึดติดในรสของการเสพยาเสพติดด้วยความโลภ เป็นต้น ประการหนึ่ง การนำหลักสัมมัปปธาน ๔ มาใช้บำบัดผู้เสพยาเสพติดเพื่อ ให้รู้ และเข้าใจเรื่องของความเพียรที่จะทำความดีในการลด ละ และเลิกยาเสพติดของผู้เสพยาเสพติด ประการหนึ่ง การนำหลักพรหมวิหารธรรม ๔ มาใช้บำบัดผู้เสพยาเสพติดเพื่อ ให้รู้ และเข้าใจเรื่องของความรักของคนในครอบครัว ที่มีความหวังดีพร้อมอยากให้มีความอบอุ่นในครอบครัว และอยากให้ลูกหลานนั้นๆ ลด ละ เลิกเลิกยาเสพติด และกลับมาเป็นคนดีของสังคม ประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่ง การนำหลักไตรสิกขา ๓ เป็นหลักธรรมที่เป็นหลักสำคัญ ในการพัฒนามนุษย์ให้ดำเนินชีวิตดีงามถูกต้อง ทำให้มีวิถีชีวิตที่เป็นมรรค เป็นทางดำเนินชีวิตหรือวิถีชีวิตที่ถูกต้องดีงามของมนุษย์ ต้องเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาตนเอง เริ่มจากการรักษาศีล เพื่อขัดเกลาพฤติกรรม นำมาปฏิบัติเพื่อพัฒนาตนเองให้มีชีวิตที่ดีงามเพื่อจัดปรับเตรียมสภาพชีวิตในการเข้าสู่สังคมต่อไป

วิเคราะห์การนำพุทธวิธีในการบำบัดผู้เสพยาเสพติดของสถานพักฟื้นวัดถ้ำกระบอกนั้น ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การประยุกต์หลักหลักพรหมวิหารธรรม ๔ เน้นการใช้หลักธรรมเป็นเครื่องมือพัฒนาจิตใจเป็นสำคัญ สถาบันทางสังคมที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับเยาวชน โดยการปลูกฝังพฤติกรรมด้านสังคมเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการสร้างบรรยากาศความรักความอบอุ่นให้เกิดขึ้นภายในครอบครัว ชุมชนด้วยการทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งจะช่วยหล่อหลอมให้เด็กและเยาวชนมีเกราะป้องกันมีพัฒนาการที่ดี มีบุคลิกภาพที่สมบูรณ์ และเป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตดี จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนต้องช่วยกันดูแลเพื่อช่วยกันพัฒนา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศด้วยการนำหลักธรรมะมาเป็นแก่นการดำรงชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องชี้ให้เห็นว่า เพื่อนซึ่งมีอิทธิพลมากที่สุด ให้คบหากับเพื่อนที่เป็นกัลยาณมิตร

 Download

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕