หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระพรสุข ฐิตธมฺโม (พิมมะจักร)
 
เข้าชม : ๑๖๗๖๑ ครั้ง
ศึกษาเปรียบเทียบกระบวนชีวิตตามทัศนะของจักรกลนิยมกับพุทธปรัชญาเถรวาท (๒๕๕๓)
ชื่อผู้วิจัย : พระพรสุข ฐิตธมฺโม (พิมมะจักร) ข้อมูลวันที่ : ๒๘/๑๑/๒๐๑๑
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(ปรัชญา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาณรงค์ กนฺตสีโล, ผศ.ดร.
  พระใบฎีกาเสน่ห์ ญาณเมธี, ดร.
  นายบัณฑิต รอดเทียน
วันสำเร็จการศึกษา : 2553
 
บทคัดย่อ

วิทยานิพนธ์นี้เป็นการศึกษาเชิงเอกสาร  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนชีวิตตามทัศนะของจักรกลนิยม  เพื่อศึกษากระบวนชีวิตตามทัศนะของพุทธปรัชญาเถรวาท และเพื่อเปรียบเทียบความเหมือนและความต่างเกี่ยวกับทัศนะกระบวนชีวิตตามแนว คิดจักรกลนิยมกับพุทธปรัชญาเถรวาท

                      ผลการศึกษาวิจัยพบว่า ชีวิตตามทัศนะของชาวจักรกลนิยมนั้น มนุษย์วิวัฒนาการมาจาก สัตว์ชั้นสูง สัตว์ชั้นสูงวิวัฒนา การมาจากสัตว์ชั้นต่ำ สัตว์ชั้นต่ำวิวัฒนาการมาจากปฐมเชลล์ ซึ่งประกอบด้วยสสารและพลังงาน หรือถ้าจะว่าสั้นๆก็คือมนุษย์วิวัฒนาการมาจากสสารกับพลังงานนั้นเอง พฤติกรรมทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขทางสสารหรือทางกายภาพเท่านั้น ชาวจักรกลนิยมยังเชื่ออีกว่าพฤติกรรมทุกอย่างเกิดจากแรงผลักดันบางอย่างโดยสิ้นเชิง ปัจจุบันเป็นผลเนื่องมาจากอดีต อนาคตเป็นผลเนื่องจากปัจจุบันเป็นอย่างนี้เรื่อย ๆไป ในกรณีการกระทำ การพัฒนาชีวิตของมนุษย์ก็เหมือนกัน ชาวจักรกลนิยมก็มีความเชื่อในลักษณะเดียวกัน นั้นก็หมายความว่า การกระทำเกิดจากแรงผลักดันทั้งหมด ไม่มีความเป็นอิสระในตัว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อม สังคม ค่านิยม การศึกษา อุปนิสัย พ่อแม่ ญาติ ตลอดเพื่อนมิตร สหาย ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นแรงผลักของมนุษย์ ด้วยเหตุนี้การพัฒนาชีวิตมนุษย์จึงดำเนินไปตามกลไกลนี้ โดยให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราพึ่งปรารถนา ไม่ว่าจะต้องการให้มนุษย์เป็นโจร คนดี นักบุญ ก็สามารถทำได้ตามกลไกลนี้

                      ชีวิตตามทัศนะพุทธปรัชญาเถรวาท ถือว่าชีวิตเป็นส่วนประกอบของนามรูป หรือวิวัฒนาการมาจากนามรูป แต่นามรูปก็มีขึ้นโดยอาศัยเหตุปัจจัย ชีวิตไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยความบังเอิญ แต่ทุก ๆ สิ่งที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ล้วนแล้วแต่มีเหตุปัจจัย เกิดขึ้นเพราะมีเหตุปัจจัย ความเป็นไปในชีวิต การกระทำของมนุษย์ การพัฒนาชีวิต สิ่งเหล่านี้มีได้ เกิดขึ้นได้เพราะอาศัยเหตุปัจจัย ด้วยเหตุนี้ เหตุปัจจัยจึงเป็นตัวการสำคัญสุดในชีวิต ในฐานะเป็นตัวผลักดันให้ชีวิตก้าวเดินไปในทิศทางต่างๆ ที่เราต้องการ เพราะฉะนั้น การพัฒนาชีวิตมนุษย์ ตามหลักของปฏิจจสมุปบาทจึงเน้นไปที่เหตุปัจจัย สร้างเหตุปัจจัยให้สอดคล้องกับสิ่งที่เราต้องการ ถ้าต้องการเป็นโจรก็สร้างเหตุปัจจัยให้กลายเป็นโจร ต้องการเป็นนักบุญ นักการเมือง หรือพระอรหันต์ ก็จำเป็นต้องสร้างเหตุปัจจัยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ซึ่งปัจจัยที่เป็นตัวการผลักดันชีวิตนั้น ตามกระบวนของเหตุปัจจัยแล้วมีอยู่ ๒ ประการใหญ่ นั้นคือปัจจัยภายนอก และปัจจัยภายใน ซึ่งทางพุทธปรัชญาเถรวาทเรียกว่า ปรโตโฆษะบ้าง กัลลยาณมิตรบ้าง ปาปมิตรบ้าง โยนิโสมนสิการบ้าง แต่ปัจจัยเหล่านี้ก็มิใช่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดขึ้นเพราะอาศัยปัจจัยอื่นๆอีกเช่นกัน เป็นลักษณะของลูกโซ่

                      จะเห็นได้ว่ากระบวนชีวิตของทั้ง ๒ อย่างนี้มีส่วนที่เหมือนกันอยู่มิใช่น้อย อย่างไรก็ตามในเรื่องกระบวนชีวิตทั้ง ๒ ทัศนะนี้ก็มีความต่างกันอยู่มิใช่น้อยเช่นกัน ถึงกระบวนชีวิตตามทัศนะของชาวจักรกลนิยมจะถือว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่ผลักดันให้เป็นไปก็ตาม แต่ชาวจักรกลนิยมก็เห็นเพียงสสาร กับพลัง งานเท่านั้น ไม่สามารถมองเข้าไปถึงจิตที่เป็นนามธรรมได้ ด้วยเหตุนี้เองการพัฒนาชีวิตตามทัศนะชาวจักรกลนิยมจึงมุ้งตรงไปที่การสร้างปัจจัยทางกายภาพอย่างเดียว แต่ในหลักปฏิจจสมุปบาทแล้วการพัฒนาชีวิตให้ความสำคัญทั้ง ๒ ปัจจัย นั้นคือไม่ละเลยนามธรรม อีกทั้งไม่ถอดทิ้งกายภาพด้วย

download

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕