พระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว องค์พระปิยมหาราช
ที่ได้ทรงสถาปนามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยขึ้น เพื่อให้เป็นสถานที่ศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูง
ดังนั้นท่านพระมหาเถรานุเถระจึงได้สนองงานตามแนวพระราชปณิธานนี้มาโดยตลอด
ในการจัดการศึกษาในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
พระไตรปิฎก เป็นคัมภีร์สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่พระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนใช้ศึกษาเล่าเรียน
เพื่อให้รู้ทั่วถึงพระธรรมวินัยและปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง
ด้วยเหตุนี้ พระไตรปิฎก จึงเรียกว่าพระปริยัติสัทธรรม เพราะเป็นปทัฏฐานให้เกิดมีพระปฏิบัติสัทธรรม
คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และพระปฏิเวธสัทธรรม คือ มรรค ผล นิพพานเป็นที่สุด
ผู้ที่จะถ่ายทอดสื่อธรรมต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จำเป็นต้องมีความรู้ดีในศาสตร์สมัยใหม่ต่าง ๆ ที่ได้ศึกษาในระดับอุดมศึกษา
ดังที่พระบาทสมเด็จพระปิยมหาราช รัชกาลที่ ๕ ทรงเรียกว่า วิชาชั้นสูง
การจับแก่นของวิชาการในศาสตร์นั้น ๆ ได้จะนำไปสู่การเปรียบเทียบทำความเข้าใจแล้วใช้เป็นเครื่องมือ
ในการถ่ายทอดพุทธธรรม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงอุปถัมภ์ให้มีการปริวรรตพระไตรปิฎกที่จารึกไว้ในใบลานด้วยอักษรขอมเป็นอักษรไทย
แล้วจัดพิมพ์เป็นเล่ม จำนวน ๓๙ เล่ม ใน พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๔๓๖ นับเป็นคัมภีร์พระไตรปิฎกที่จัดพิมพ์เป็นเล่มครั้งแรกในประเทศไทย
ฉบับนี้เรียกกันโดยทั่วไปว่า
พระไตรปิฎก ฉบับตราแผ่นดิน
ต่อมาได้มีการชำระและจัดพิมพ์เป็นเล่มจำนวน ๔๕ เล่ม ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๗ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๗๓ ฉบับนี้เรียกว่า
พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐ
หลังจากเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองแผ่นดิน จากราชาธิปไตยมาสู่
ประชาธิปไตย คณะรัฐบาลได้ดำเนินการอุปถัมภ์ให้จัดให้มีการแปลพระไตรปิฎกจากภาษาบาลีเป็นภาษาไทย
เริ่มจาก พ.ศ. ๒๔๘๓ มาเสร็จในเดือนพฤษภาคม ๒๕๐๐ ทันการฉลอง ๒๕
พุทธศตวรรษพอดี พิมพ์เป็นเล่มได้ ๘๐ เล่ม ในการพิมพ์ครั้งที่
๒ ในวโรกาสรัชดาภิเษก ครองราชย์ครบ ๒๕ ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาลปัจจุบัน ได้จัดพิมพ์เป็น ๔๕ เล่ม เท่ากับภาษาบาลี เรียกว่า
พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับหลวง ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๓๐ อันเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงมีพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบนักษัตร คณะสงฆ์อันมีสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) เป็นองค์ประธาน ได้ปรารภการสังคายนาพระธรรมวินัย
ตรวจชำระพระไตรปิฎกแล้วจัดพิมพ์โดยการอุปถัมภ์ของรัฐบาลสมัย
ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อุปถัมภ์งบประมาณเริ่มตั้งแต่ปี
๒๕๒๘ และได้เสร็จทันวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๐ พอดี พระไตรปิฎกฉบับนี้
เรียกชื่อว่า
"พระไตรปิฎกฉบับสังคีติ" (ทยฺยรฏฺฐสฺส สงฺคีติเตปิฏกํ)
ในการฉลอง ๒๕๐๐ ปี แห่งพระพุทธศาสนา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ปรารภการชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎก โดยเหตุ
๓ ประการ คือ
๑. เพื่อให้มีพระไตรปิฎกภาษาบาลีเป็นคัมภีร์เรียนตามหลักสูตรของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยโดยเฉพาะ
สมดังพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ
รัชกาลที่ ๕ ที่ทรงมุ่งให้เป็นที่ศึกษาพระไตรปิฎก
๒. พระไตรปิฎกที่จัดพิมพ์ในครั้งก่อน
ๆ ขาดตลาด ที่เหลืออยู่กระดาษ ก็เสื่อมคุณภาพ ไม่เพียงพอกับจำนวนนิสิต
๓. เพื่อเป็นอนุสรณ์ มหามงคลสมัย
๒๕ พุทธศตวรรษ ซึ่งทางฝ่ายอาณาจักรและพุทธจักรได้จัดเฉลิมฉลองอย่างเป็นการเอิกเกริกมโหฬาร
งานชำระและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาบาลี ฉบับมหาจุฬาเตปิฏกํ
ครั้งนี้ได้รับพระบรมราชูปถัมภ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
จำนวนทั้งสิ้น ๒๑๐,๐๐๐ บาท และจากพุทธบริษัทที่มีจิตศรัทธาตามรอยพระยุคลบาทได้ดำเนินการจัดพิมพ์เสร็จครบ
๔๕ เล่ม ในปี ๒๕๓๕
ใน พ.ศ. ๒๕๓๕ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยได้ปรารภการที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา สมควรจะได้จัดการแปลพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ
เป็นภาษาไทย ให้ชื่อว่า พระไตรปิฎก ภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสอันเป็นมหามงคลยิ่ง และรัฐบาลอันมี
ฯพณฯ นายชวน หลักภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณ ใน
ปี ๒๕๓๗-๒๕๓๙ จำนวนเงินทั้งสิ้น
๓๕,๕๒๗,๐๐๐ บาท (สามสิบห้าล้านห้าแสนสองหมื่นเจ็ดพันบาทถ้วน)
อุปถัมภ์การแปลและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จนสำเร็จลงด้วยดี เริ่มงานตั้งแต่วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗
มาเสร็จสมบูรณ์ ในเดือนกันยายน ๒๕๔๒
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้ทูลเชิญสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี ในฐานะทรงเป็นประธานอุปถัมภ์โครงการแปลและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดงานสมโภชพระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวันเสาร์ที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ.
๒๕๔๒ เวลา ๑๓.๓๐ น. และกราบทูลอาราธนาสมเด็จพระพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
เสด็จมาประทานพระไตรปิฎก แก่เจ้าคณะภาค ๑๘ ภาค และเจ้าคณะจังหวัด
๗๖ จังหวัด และประทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธา เป็นเจ้าภาพถวายแด่พระสังฆาธิการในวันอาทิตย์ที่
๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๒ เวลา ๑๖.๐๐ น. ดังกล่าวด้วย
ในวโรกาสงานสมโภชพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
ครั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้จัดพิมพ์หนังสือ ๒ เล่ม คือ
๑. หนังสือสูจิบัตรงานสมโภชพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
จำนวนพิมพ์ ๑๐,๐๐๐ เล่ม
๒. หนังสือ
อนุสรณ์งานสมโภชพระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ใช้ชื่อว่า เก็บเพชรจากคัมภีร์พระไตรปิฎก
จำนวนพิมพ์ ๕,๐๐๐ เล่ม
ขอผลานิสงส์ที่เกิดจากการแปลและจัดพิมพ์พระไตรปิฎกภาษาไทย
ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยครั้งนี้ จงเป็นผลสัมฤทธิ์แด่สมเด็จพระบุรพมหากษัตริยาธิราชเจ้าทุกพระองค์
มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ เป็นต้น
ขออำนาจแห่งบุญกิริยาธรรมทานมัยครั้งนี้ได้อภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ
พร้อมสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงพระเจริญพระราชสิริสวัสดิพิพัฒนมงคลพระชนมสุขทุกประการ
อุปสรรคอุปัทวันตรายทั้งปวง อย่าแผ้วพานพระมหาจักรีบรมราชวงศ์
พระราชวงศ์ มุขอำมาตย์มนตรี ชาวประชาราษฎร์ สมณชีพราหมณ์ ตลอดนิรันดร์กาล
(พระราชวรมุนี)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ |