ความสำคัญและการรักษาพระไตรปิฎก l ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับพระไตรปิฎก l พระไตรปิฎกวิจารณ์ l บทความพระไตรปิฎก  

หน้าหลัก
พระไตรปิฎกวิจารณ์ (A Critical Study of the Tipitฺaka)
   
  หน่วยที่ ๖ พระพุทธศาสนากับปรัชญาการศึกษา

๑. การศึกษาคืออะไร ?
ท่านพุทธทาสภิกขุ กล่าวว่า คำว่าสิกขามาจากคำว่า
สยํ + อิกฺขา
สมฺมา + อิกฺขา
สห + อิกฺขา
ผู้ศึกษาจะต้องเห็นชัดในสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองอย่างถูกต้องจนดับทุกข์ได้และสามารถจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ด้วยความสงบสุข ดังนั้นการศึกษาจึงมิใช่การเรียนเพียงด้านภาษา และอาชีพเท่านั้น แต่หมายถึงการดับทุกข์ตนเองและผู้อื่นให้ได้ทำตนให้เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์

หน่วยการบรรยาย
ทบทวนโครงสร้างพระไตรปิฎก
ทบทวนเนื้อหาพระไตรปิฎก
หลักประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา
สังคมพุทธทัศนะ
เศรษฐศาสตร์ชาวพุทธ
พุทธศาสนากับปรัชญาการศึกษา
พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
ทฤษฎีวิวัฒนาการกับอัคคัญญสูตร
พุทธศาสนากับการเกิดใหม่
พุทธศาสนากับศาสนาเทวนิยม
ทบทวนสรุป
ทบทวนสรุป
หนังสืออ้างอิง
ดร. สาโรช บัวศรกล่าวว่า การศึกษาคือขบวนการพัฒนาขันธ์ ๕ ให้เจริญเต็มที่เพื่อบรรเทาราคะ โทสะ โมหะ ของมนุษย์ให้เบาบางลงและหมดไปในที่สุด
พระราชวรมุนี* (* ปัจจุบัน พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) )ได้กล่าวว่า การศึกษามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำชีวิตให้เข้าถึงอิสรภาพ คือทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากอำนาจครอบงำจากปัจจัยภายนอกให้มากที่สุด และ มีความเป็นใหญ่ในตัว สามารถกำหนดความเป็นอยู่ของตนให้ได้มากที่สุด

๒. กระบวนการศึกษาแบบพุทธ
คือ กระบวนการแก้ปัญหาอย่างถูกต้องด้วยการทำลายอวิชชาและตัณหา และสร้างเสริมปัญญา ฉันทะ และกรุณา

๓. ความหมายและจุดมุ่งหมายการศึกษา
ก. ความหมายที่มองในแง่สภาพที่เผชิญการศึกษาก็คือการแก้ปัญหาของมนุษย์ ถ้าไม่มีปัญหา การศึกษาก็ไม่มี มองในแง่สภาพที่จะประสบผล การศึกษาก็คือการทำให้ชีวิตหลุดพ้นจากปัญหา (-) ปราศจากสิ่งบีบคั้นกีดขวาง แล้วเข้าถึงสิ่งที่ดีงาม (+) สิ่งที่ประเสริฐที่สุดหรือดีที่สุดที่ชีวิตจะพึงได้มีอิสรภาพสมบูรณ์ มองในแง่ความสัมพันธ์กับปัจจัยภายนอกการศึกษาคือการทำให้มนุษย์พ้นจากการต้องพึ่งปัจจัยภายนอก มีความสมบูรณ์ในตัวมากยิ่งขึ้นตามลำดับ
ข. จุดหมายของการศึกษาเป็นอันเดียวกันกับจุดหมายของชีวิตคือความหลุดพ้น (วิมุตติ) ได้แก่ความปลอดโปร่งเป็นอิสระ

๔. คุณสมบัติของผู้ได้รับการศึกษา
ผู้ที่ได้รับการศึกษาตามแบบพุทธ จะมีลักษณะเด่น คือ มีคุณธรรม ๒ ประการประจำตน
๑. มีปัญญา ซึ่งเกิดพร้อมกับการสิ้นอวิชชา
๒. มีกรุณา ซึ่งเป็นแรงเร้าในการกระทำในการดำรงชีวิต จะมีลักษณะ ๒ คือ
อัตตัตถะ การบรรลุถึงประโยชน์ตน ฝึกตนเองได้ดี (ปัญญา)
ปรัตถะ การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น สามารถช่วยผู้อื่นได้ดี (กรุณา)

๕. พุทธธรรมที่เป็นสาระสำคัญของการศึกษา
๑) ธรรมที่พึงวิเคราะห์ เพื่อแสวงหาพุทธปรัชญา การศึกษาหลักธรรม หลักได้แก่ ปฏิจจสมุปบาท นิพพาน และอริยสัจ ๔ หลักธรรมรอง คือ ขันธ์ ๕,ไตรลักษณ์ กรรม และไตรสิกขา
๒) ความหมายของหลักธรรมแต่ละอย่าง
๒.๑ ปฏิจจสมุปบาทแสดงกฎเหตุผลและปัจจัยสนับสนุน
๒.๒ อริยสัจแสดงปัญหาและการแกัปัญหาของมนุษย์
๒.๓ ขันธ์ ๕ แสดงชีวิตมีองค์ประกอบ
๒.๔ ไตรลักษณ์ แสดงสภาพที่เป็นจริงที่เราจะพึงเกี่ยวข้องให้ถูกต้อง
๒.๕ กรรม แสดงความเป็นไปของมนุษย์และเหตุผล ที่จะแก้ไขปรับปรุงได้ผลสำเร็จ และจุดมุ่งหมายที่จะเข้าถึงได้ด้วยการกระทำมิใช่การอ้อนวอน
๒.๖ ไตรสิกขา แสดงความหมายแท้ของการศึกษา ขอบเขตการ ฝึกตน การพัฒนาชีวิตที่ดี (มรรค)
๒.๗ นิพพาน แสดงถึงสภาวะที่เข้าถึงเมื่อแก้ปัญหามนุษย์ได้แล้ว และประโยชน์สูงสุดที่จะพึงได้จากการมีชีวิตและการมีสุขภาพจิตที่สมบูรณ์

๖. มองการศึกษาแนวพุทธจากภาคปฏิบัติ
ครู คือผู้ทำหน้าที่ ๒ อย่าง คือ
๑. สิปปทายก เป็นผู้ให้วิทยาการ
๒. กัลยาณมิตร เป็นเพื่อนคิด
ตามหลักปัจจัยสัมมาทิฐิ ๒ ประการ คือ
ปรโตโฆสะ เสียงจากภายนอกรวมทั้งกัลยาณมิตร
โยนิโสมนสิการ คือการคิดเป็นระบบ ๑๐ แบบ คือ
๑. คิดแบบสัมพันธภาพ
(อิทัปปัจจยตา)
  ๒. คิดแบบวิเคราะห์
(ขันธ์ ๕)
  ๓. คิดแบบแก้ทุกข์
(อริยสัจ)
  ๔. คิดแบบสามกระแส
(ไตรลักษณ์)
  ๕. คิดแบบสามมิติ
(คุณ-โทษ-ทางออก)
  ๖. คิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม
(ปฏิสังขาโย)
  ๗. คิดแบบเสาสภา
(สัตบุรุษ)
  ๘. คิดแบบกุศลภาวนา
(ชูความดี)
  ๙. คิดแบบจันทร์เพ็ญ
(สติปัฎฐาน)
  ๑๐ . คิดแบบวิภัชชวาท
แบบวิธีตอบปัญหา ๔ อย่าง
คือ ยืน-แยก-ย้อน-หยุด


๗. ขบวนการแก้ปัญหาด้วยปัญญาญาณ


๘. ขบวนการทางการศึกษาของพระพุทธเจ้า อาจกล่าวได้โดยสรุปดังนี้
บุรพภาคของการศึกษา คือพื้นฐานที่จะให้เกิดระบบการศึกษาที่ถูกต้องมี ๗ อย่าง คือ

๑) กัลยาณมิตตตา
๒) ฉันทสัมปทา
๓) สีลสัมปทา
๔) อัตตสัมปทา
๕) ทิฏฐิสัมปทา
๖) ปอัปมาทสัมปทา
๗) โยนิโสมนสิการ
- คบคนดี
- ใฝ่ดี
- มีระเบียบวินัย
- รู้ศักยภาพตนเอง
- เห็นชอบ
- รู้จักค่าของเวลา-ไม่ประมาท
- คิดเป็นระบบ


ตัวการศึกษา คือ มรรคมีองค์ ๘ มีความเห็นชอบเป็นต้น
เป้าการศึกษา คือ พัฒนากาย (ภาวิตกาโย) พัฒนาสังคม (ภาวิตสีโล) พัฒนาจิต (ภาวิตจิตฺโต) พัฒนาปัญญา (ภาวิตปญฺโญ)
ผลการศึกษา คือ จิตวิมุตติและปัญญาวิมุตติ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์สุขทั้งแก่ตนเองและสังคม ดังรูปต้นไม้ การศึกษา ดังนี้.

top